Wednesday, 22 March 2023

ส่องด่วน! ทะเบียนรถนายกฯ ลงพื้นที่สุพรรณบุรี เขินเลย เจอชาวบ้านขอหอมแก้ม

นายกฯ ฟิต เสร็จ คณะรัฐมนตรี บินลง ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี รับปัญหาชาวบ้านไร้ที่ทำมาหากิน 113 ราย หลังจากร้องเรียนไม่คืบ ย้ำ มาขจัดปัญหา ยึดตามกม. ไม่ได้หวังให้รักและไม่ได้มาการเมือง พบประชาชนขอหอมแก้ม แก้เขิน บอกต้องระมัดระวังโควิด ให้ถ่ายรูปแทน

ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อตรวจงาน โดยเมื่อเดินทางถึง นายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังพื้นที่ใช้ประโยชน์ ณ แปลงจัดสรร ตำบลวังยาว อำเภอด่านช้าง ตรวจติดตามพื้นที่ทำกิน กรณีราษฎรไร้ที่ทำกิน 113 ราย ร้องทุกข์การขอจัดที่ดินสำหรับเพื่อเลี้ยงชีพล่าช้า

จากนั้น นายกรัฐมนตรี พบปะกับประชาชน ที่ได้รับจัดสรรพื้นที่ใช้ประโยชน์ ที่ อบต. วังยาว เมื่อนายกฯ มาถึงได้รับ พวงมาลัย และดอกไม้จากราษฎร โดยระบุว่า ขอบคุณมากทุกคน ตนมีกำลังใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

นายกฯ ลงพื้นที่สุพรรณบุรี
นายกรัฐมนตรี ได้ถามปัญหากับประชาชน โดยกล่าวว่า

นายกฯ ทำ คทช. มาหลายปีแล้ว จัดตั้งคณะกรรมการแก้ไขให้กับผู้มีรายได้น้อย ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วจนถึงรัฐบาลนี้ วันนี้ถือโอกาสมาดูว่ามีปัญหาอะไรอีกบ้าง การันตีว่าตนมาในนามนายกฯ รักทุกคนอยู่แล้ว การันตีต้องทำให้ถูกต้อง

เดินระหว่างที่นายกรัฐมนตรีกล่าวกับราษฎร ไมค์ติด ๆ ดับ ๆ จนกระทั่งชาวบ้านแซวว่า ไม่ใช้ไมค์ นายกฯไฟแรงอยู่แล้ว

นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้มาเพื่อความเป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองมีนโยบายเรื่องความเท่าเทียม รวมทั้งการเข้าถึงโอกาส ดูแลผู้มีรายได้น้อย แต่ทั้งหมดทั้งปวงจะต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย กฎกติกาจะต้องเห็นด้วยซึ่งกันและกัน

นายกฯ สัญญาว่า วิธีการทั้งหมดทั้งปวงนั้นอนุมัติให้อยู่แล้ว แต่ว่าต้องตรวจทานเอกสารสิทธิ์ว่าถูกต้องไหม โดยได้ออกคำสั่งให้ดูที่ดิน 2 แปลงใหญ่

ว่าเป็นการเช่าตามกฏหมายหรือเปล่า ออกมาอย่างนั้นได้อย่างไร จะต้องไปวิเคราะห์อีกครั้ง พร้อมระบุอีกว่า ข้อตกลงสำคัญคือต้องตรวจสอบว่า ประชาชน 113 ราย

มีที่ดินสำหรับทำกินที่อื่นๆหรือเปล่า ถ้าเกิดมี จะไม่ได้รับการจัดสรร ซึ่งชาวบ้านรับปากว่า ครับผม ส่วนนายกฯแซวว่า พูดเพราะ เป็นทหารเก่าหรือเปล่า

นายกฯ ถามว่า ใครคนไหนเป็นคนแบ่งสรรให้ ประชาชนว่า “คุณพี” นายกรัฐมนตรี ถามว่า “คุณพี” เป็นใคร แต่ว่าไม่ว่าใคร ก็ตัดสินไม่ได้ ด้วยเหตุว่าตนคือนายกรัฐมนตรี ถ้านายกรัฐมนตรี ตัดสินมิได้ ใครก็ทำให้มิได้เหมือนกัน

ทั้งนี้ ราษฎร บอกว่า ผู้ว่า ไม่ดำเนินการให้ นายกฯ จึงรีบห้ามว่า ไม่ใช่ ศัตรูกัน คนประเทศไทยด้วยกันทั้งนั้น ตรงนี้ตนได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปดำเนินการเรียบร้อยแล้ว

นายกรัฐมนตรี บอกว่า ได้สั่งไปว่า ให้ดำเนินการให้ชาวบ้าน 113 ราย นี่ก่อน ซึ่งหากถูกต้อง ต้องทำผัง และก็จับสลากว่าใครอยู่ตรงไหน ซึ่งจากการเอกสาร พบว่า มีประชาชนไม่ผ่านการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ 59 ราย เหลือเพียง 54 รายที่ถูกต้อง พร้อมย้ำว่า ให้ทุกคนต้องยอมรับกฎกติกาตรงนี้

นายกฯ ถามถึงที่ดินแปลงหนึ่งที่มีการไปล้อมรั้วลวดหนาม บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปหรืออย่างไร พร้อมถามคำถามว่า โอเค แล้วก็พอใจหรือไม่ ตนมาประสานให้ทุกอย่างเดินหน้า มิได้มาทำ เพื่อให้ทุกคนรักตน หากจะรักก็รักอยู่แล้ว แต่ทำวันนี้ คือทำให้ถูก วันนี้ตนมาประสาน เพื่อดำเนินงานต่อไปให้ได้ ไม่ได้ทำเพื่อเอาอกเอาใจ วันนี้หากสำเร็จจะต้องให้เครดิตกับผู้ว่าฯ รวมทั้งคณะทำงาน อย่าไปโกรธกัน โกรธกันไม่ได้ เพราะเหตุว่าต้องรักษากฎหมาย

หลักนิติศาสตร์กับรัฐศาสตร์ จำต้องเดินคู่กัน ถ้าหากขัดแย้งกันบ้านเมืองก็เดินต่อไปไม่ได้ จะต้องสร้างความรักความสามัคคี จะบอกว่ารักนายกรัฐมนตรีหรือไม่ชอบผู้ว่าฯ ก็มิได้ จะต้องมีกฎหมายดูแล วันนี้การทำงานก็มีรองนายกฯอยู่หลายๆคน

ส่องด่วน ทะเบียนรถนายกฯ
ดังนี้ ประชาชน บอกว่า รู้สึกดีใจ ที่ นายกฯ ลงมาดูด้วยตัวเอง เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับ หากนายกรัฐมนตรีไม่มา

อาจส่งผลให้ถูกตัดสิทธิ์ได้ ในเวลาเดียวกันนี้ มีชาวบ้าน กอดนายกรัฐมนตรี และขอถ่ายภาพ พูดว่า นายกรัฐมนตรี หล่อกว่าในโทรทัศน์ ทั้งยังมีชาวบ้านขอหอมแก้ม แต่ว่านายกฯ กล่าวว่า โควิดยังมีอยู่ จึงให้ถ่ายภาพด้วยแค่นั้น

ช่วงท้าย นายกฯ พูดว่าปัญหามี แต่จะให้ลงไปทุกพื้นที่คงไม่ว่าง ด้วยเหตุว่ามีปัญหา และก็งานอีกมากมายที่จะต้องทำ เพียงแค่ขอให้ยกปัญหาคราวนี้ เป็นบทเรียน เพื่อจะนำร่องไปจัดการกับปัญหาที่ดินทำมาหากินในพื้นที่อื่นได้ยังไง

นอกเหนือจากนั้น ยังมีตัวแทนราษฎรอีก 6 คน ขอให้นายกรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาที่ดินสำหรับเพื่อเลี้ยงชีพที่ทับซ้อนกับที่ดินของรัฐ มีราษฎร 95 ครอบครัว ที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ ปัญหานี้ชาวบ้านเข้ามาทำกินในพื้นที่ ก่อนปี 2506 ที่ภาครัฐเข้ามาจัดระเบียบ ประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวน ทำให้ไม่มีเอกสารสิทธิ์ โดยนายกฯขอให้ชาวบ้านใจเย็น ตอนนี้กำลังอยู่ในกติกา ที่กำลังแก้อยู่ รวมทั้งจะรับเรื่องนี้ไปพิจารณา ซึ่งปัญหานี้เป็นการประกาศพื้นที่ทับซ้อน ภายหลังทำพื้นที่อัตรา 1:4000 วันนี้ตนมาแล้ว ก็จะรับเรื่องไว้ใหม่

นายกฯ กล่าวก่อนที่จะเดินทางกลับ ว่า วันนี้ตนพูดในนามรัฐบาล ไม่ได้มาหาเสียง หน้าที่ของ นายกฯคือให้ความเป็นธรรมกับประชาชนทั้งประเทศ การลงพื้นที่คราวนี้ การนำแนวทางไปใช้กับพื้นที่อื่นด้วย เพราะว่า คทช. จะจัดระเบียบทุกจังหวัดทั้งประเทศ ซึ่งมีปัญหาอยู่มาก ชาวบ้านมีทั้งรู้เรื่องและไม่รู้เรื่อง แต่นายกในฐานะประธาน คทช. ก็ได้มารับฟังปัญหาแล้ว ปรับปรุงแก้ไขเพื่อลดความขัดแย้ง ให้ ประชาชนได้รับความเป็นธรรมอย่างทั่วถึง ซึ่งทั้งสิ้นเป็นหน้าที่ของรัฐบาล

สำหรับในการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ใช้รถยนต์ฟอร์จูเนอร์ สีดำ เลขทะเบียน กฉ 4212 ยะลา